แชร์

5 ขั้นตอนสำคัญของการจัดทำ Business Continuity Plan (BCP)

อัพเดทล่าสุด: 4 ก.พ. 2025
138 ผู้เข้าชม
5 ขั้นตอนสำคัญของการจัดทำ Business Continuity Plan (BCP)

ในยุคที่ภัยคุกคามต่อองค์กรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติธรรมชาติ การโจมตีไซเบอร์ หรือการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การจัดทำแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ Business Continuity Plan (BCP) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม แผน BCP ที่ดีไม่เพียงช่วยให้องค์กรฟื้นตัวได้เร็ว แต่ยังช่วยลดผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะแนะนำ 5 ขั้นตอนสำคัญ ในการจัดทำ BCP เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


1. วิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis - BIA)

การวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการจัดทำ BCP โดยองค์กรต้องตอบคำถามสำคัญ เช่น

กระบวนการใดที่เป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ?
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากกระบวนการเหล่านี้หยุดชะงักคืออะไร?
ตัวอย่างเช่น หากธุรกิจอีคอมเมิร์ซเกิดปัญหาเว็บไซต์ล่ม อาจทำให้สูญเสียรายได้มหาศาล การวิเคราะห์ BIA จะช่วยให้องค์กรมองเห็นความเสี่ยงที่สำคัญและจัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรที่ต้องปกป้อง


2. ระบุและประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)

เมื่อทราบผลกระทบแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการระบุและประเมินความเสี่ยงที่อาจทำให้องค์กรหยุดชะงัก เช่น

ภัยธรรมชาติ: น้ำท่วม แผ่นดินไหว
ภัยจากมนุษย์: การโจมตีไซเบอร์ หรือการขาดแคลนแรงงาน
ความล้มเหลวทางเทคโนโลยี: ระบบเซิร์ฟเวอร์ล่ม
องค์กรสามารถใช้เครื่องมือ เช่น Matrix การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment Matrix) เพื่อจัดลำดับความรุนแรงและความเป็นไปได้ของแต่ละความเสี่ยง


3. พัฒนาและเขียนแผน BCP

ขั้นตอนนี้เป็นการนำข้อมูลจาก BIA และ Risk Assessment มาพัฒนาเป็น แผน BCP ที่ครอบคลุม โดยควรรวมถึง:

กระบวนการสำรอง: เช่น การโยกย้ายการทำงานไปยังไซต์สำรอง
แผนการสื่อสาร: เพื่อแจ้งเตือนพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
การบริหารทรัพยากร: เช่น การจัดการอุปกรณ์สำรองหรือเซิร์ฟเวอร์สำรอง
ตัวอย่าง: หากเป็นองค์กรด้านไอที แผน BCP ควรครอบคลุมถึงการกู้คืนระบบหลังภัยพิบัติ (Disaster Recovery Plan - DRP) เพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้เร็วที่สุด


4. การฝึกซ้อมและทดสอบแผน

แผนที่เขียนไว้ดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หากไม่ได้รับการทดสอบ การซ้อมสถานการณ์จำลอง (Simulation) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเห็นจุดอ่อนในแผน เช่น

พนักงานทราบหน้าที่ของตัวเองหรือไม่?
เวลาในการกู้คืนกระบวนการเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่?
การทดสอบควรดำเนินการอย่างน้อยปีละครั้ง และปรับปรุงแผนตามบทเรียนที่ได้จากการซ้อม


5. การปรับปรุงและพัฒนาแผนอย่างต่อเนื่อง

ภัยคุกคามใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ การทบทวนและปรับปรุงแผน BCP อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรควรอัปเดตแผนตาม:

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร
เทคโนโลยีใหม่ที่ถูกนำมาใช้
กฎระเบียบหรือมาตรฐานที่เปลี่ยนไป เช่น ISO 22301
สรุป

·         การจัดทำ Business Continuity Plan (BCP) เป็นการลงทุนที่ช่วยให้องค์กรสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การวิเคราะห์ BIA, การประเมินความเสี่ยง, การเขียนแผน, การทดสอบ และการปรับปรุงแผนอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้ธุรกิจของคุณ พร้อม รับมือกับทุกวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง
การทบทวนสิ่งที่สำคัญจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว "ปัญหาที่แท้จริงที่ทุกองค์กรต้องกำหนดให้ชัดเจนเมื่อเกิดเหตุ"
แผ่นดินไหวไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ธรรมชาติที่สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนและโอกาสในการพัฒนาระบบความพร้อมรับมือภัยพิบัติขององค์กร การทบทวนเหตุการณ์หลังจากแผ่นดินไหวจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้เราเข้าใจว่าอะไรทำได้ดี อะไรยังขาด และเราจะปรับปรุงอย่างไรให้พร้อมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
23 เม.ย. 2025
การจัดการเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว
เมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสติและรู้ว่าจะต้องทำอะไรเพื่อปกป้องตัวเองและคนรอบข้างในทันที เพราะทุกวินาทีล้วนมีความหมาย การตอบสนองอย่างถูกวิธีในขณะเกิดเหตุสามารถลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้อย่างมาก บทความนี้จะเน้นไปที่การ จัดการและปฏิบัติตัว “ในช่วงเวลาที่แผ่นดินไหวกำลังเกิดขึ้น” โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนอาจตกใจหรือสับสน เราจึงต้องมีแนวทางที่ชัดเจน
22 เม.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy