บทเรียนจากเหตุการณ์วิกฤต: ตัวอย่างจริงที่แสดงความสำคัญของ BCM
อัพเดทล่าสุด: 4 ก.พ. 2025
65 ผู้เข้าชม
บทเรียนจากเหตุการณ์วิกฤต: ตัวอย่างจริงที่แสดงความสำคัญของ BCM
ในโลกธุรกิจที่ความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าที่เคย Business Continuity Management (BCM) หรือ การจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญในหลายกรณีที่องค์กรสามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ร้ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะนำเสนอตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่แสดงถึงบทบาทสำคัญของ BCM ในการป้องกันความเสียหายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร
กรณีศึกษา: การโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ของ Maersk (ปี 2017)
Maersk บริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ตกเป็นเหยื่อการโจมตีด้วยมัลแวร์ชื่อ NotPetya ในปี 2017 การโจมตีครั้งนี้ทำให้ระบบไอทีของบริษัทหยุดทำงานไปหลายวัน ส่งผลให้ธุรกรรมการขนส่งสินค้าหยุดชะงักอย่างสมบูรณ์
ผลกระทบ:
ระบบบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกถูกปิดตัวลง ทำให้เกิดความล่าช้าทั้งในท่าเรือและขนส่งสินค้าหลายพันรายการ
การแก้ไข:
โชคดีที่ Maersk ได้เตรียมแผน BCM ไว้ล่วงหน้า ทำให้บริษัทสามารถกู้คืนข้อมูลสำรองจากสาขาในไนจีเรียได้ และภายใน 10 วัน ระบบก็กลับมาทำงานได้เกือบปกติอีกครั้ง
บทเรียน:
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า การมีแผน BCM ที่ครอบคลุมทั้งการสำรองข้อมูลและการกู้คืนระบบสามารถลดความเสียหายได้อย่างมหาศาล แม้จะเป็นการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่
กรณีศึกษา: แผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์ (ปี 2011)
ในปี 2011 เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ประสบกับแผ่นดินไหวรุนแรงที่ทำให้สำนักงานหลายแห่งไม่สามารถเปิดทำการได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่บริษัทประกันภัยรายหนึ่งที่มีแผน BCM สามารถย้ายพนักงานทั้งหมดไปยังสำนักงานสำรองที่ตั้งอยู่ในเมืองอื่นได้ทันที
ผลกระทบ:
อาคารสำนักงานหลักได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้
การแก้ไข:
บริษัทได้ปฏิบัติตามแผน BCM โดยย้ายพนักงานไปยังสถานที่สำรอง และทำให้ยังสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
บทเรียน:
แผน BCM ที่เตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่สำรองและการสื่อสารในภาวะวิกฤต สามารถช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจต่อไปได้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
กรณีศึกษา: วิกฤตโรคระบาด COVID-19
การระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคธุรกิจทั่วโลก หลายองค์กรต้องปิดสำนักงานและเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการทำงานทางไกล (Remote Work)
ผลกระทบ:
การหยุดชะงักของการปฏิบัติงานในสำนักงานและการจัดการซัพพลายเชน
การแก้ไข:
องค์กรที่มีแผน BCM ที่รองรับการทำงานทางไกลและการสื่อสารออนไลน์ สามารถปรับตัวได้รวดเร็ว โดยใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น Zoom และ Microsoft Teams เพื่อให้พนักงานทำงานต่อไปได้
บทเรียน:
การเตรียมแผน BCM ที่ยืดหยุ่นต่อวิกฤตที่มีระยะเวลายาวนาน ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานและความสัมพันธ์กับลูกค้าได้
ความสำคัญของ BCM ต่ออนาคตองค์กร
เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า วิกฤตสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และมีหลายรูปแบบที่องค์กรไม่อาจคาดการณ์ได้ แต่การมีแผน BCM ที่ชัดเจนและครอบคลุม ช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสียหาย ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างรวดเร็ว และฟื้นตัวได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
ดังนั้น องค์กรใดที่ยังไม่มีแผน BCM ควรเร่งดำเนินการวางแผนโดยเริ่มจากการ วิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis: BIA) การกำหนดแผนการดำเนินงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรพร้อมรับมือกับทุกวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สรุป
เหตุการณ์วิกฤตที่ผ่านมาให้บทเรียนสำคัญแก่องค์กรทั่วโลกว่า การจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCM) ไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันความเสียหาย แต่เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่า องค์กรสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ในโลกธุรกิจที่ความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าที่เคย Business Continuity Management (BCM) หรือ การจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญในหลายกรณีที่องค์กรสามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ร้ายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะนำเสนอตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่แสดงถึงบทบาทสำคัญของ BCM ในการป้องกันความเสียหายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร
กรณีศึกษา: การโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ของ Maersk (ปี 2017)
Maersk บริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ตกเป็นเหยื่อการโจมตีด้วยมัลแวร์ชื่อ NotPetya ในปี 2017 การโจมตีครั้งนี้ทำให้ระบบไอทีของบริษัทหยุดทำงานไปหลายวัน ส่งผลให้ธุรกรรมการขนส่งสินค้าหยุดชะงักอย่างสมบูรณ์
ผลกระทบ:
ระบบบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกถูกปิดตัวลง ทำให้เกิดความล่าช้าทั้งในท่าเรือและขนส่งสินค้าหลายพันรายการ
การแก้ไข:
โชคดีที่ Maersk ได้เตรียมแผน BCM ไว้ล่วงหน้า ทำให้บริษัทสามารถกู้คืนข้อมูลสำรองจากสาขาในไนจีเรียได้ และภายใน 10 วัน ระบบก็กลับมาทำงานได้เกือบปกติอีกครั้ง
บทเรียน:
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า การมีแผน BCM ที่ครอบคลุมทั้งการสำรองข้อมูลและการกู้คืนระบบสามารถลดความเสียหายได้อย่างมหาศาล แม้จะเป็นการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่
กรณีศึกษา: แผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์ (ปี 2011)
ในปี 2011 เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ประสบกับแผ่นดินไหวรุนแรงที่ทำให้สำนักงานหลายแห่งไม่สามารถเปิดทำการได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่บริษัทประกันภัยรายหนึ่งที่มีแผน BCM สามารถย้ายพนักงานทั้งหมดไปยังสำนักงานสำรองที่ตั้งอยู่ในเมืองอื่นได้ทันที
ผลกระทบ:
อาคารสำนักงานหลักได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้
การแก้ไข:
บริษัทได้ปฏิบัติตามแผน BCM โดยย้ายพนักงานไปยังสถานที่สำรอง และทำให้ยังสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
บทเรียน:
แผน BCM ที่เตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่สำรองและการสื่อสารในภาวะวิกฤต สามารถช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจต่อไปได้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
กรณีศึกษา: วิกฤตโรคระบาด COVID-19
การระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคธุรกิจทั่วโลก หลายองค์กรต้องปิดสำนักงานและเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการทำงานทางไกล (Remote Work)
ผลกระทบ:
การหยุดชะงักของการปฏิบัติงานในสำนักงานและการจัดการซัพพลายเชน
การแก้ไข:
องค์กรที่มีแผน BCM ที่รองรับการทำงานทางไกลและการสื่อสารออนไลน์ สามารถปรับตัวได้รวดเร็ว โดยใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น Zoom และ Microsoft Teams เพื่อให้พนักงานทำงานต่อไปได้
บทเรียน:
การเตรียมแผน BCM ที่ยืดหยุ่นต่อวิกฤตที่มีระยะเวลายาวนาน ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานและความสัมพันธ์กับลูกค้าได้
ความสำคัญของ BCM ต่ออนาคตองค์กร
เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า วิกฤตสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และมีหลายรูปแบบที่องค์กรไม่อาจคาดการณ์ได้ แต่การมีแผน BCM ที่ชัดเจนและครอบคลุม ช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสียหาย ดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างรวดเร็ว และฟื้นตัวได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
ดังนั้น องค์กรใดที่ยังไม่มีแผน BCM ควรเร่งดำเนินการวางแผนโดยเริ่มจากการ วิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis: BIA) การกำหนดแผนการดำเนินงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรพร้อมรับมือกับทุกวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สรุป
เหตุการณ์วิกฤตที่ผ่านมาให้บทเรียนสำคัญแก่องค์กรทั่วโลกว่า การจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCM) ไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันความเสียหาย แต่เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่า องค์กรสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
บทความที่เกี่ยวข้อง
แผ่นดินไหวไม่ใช่เพียงเหตุการณ์ธรรมชาติที่สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนและโอกาสในการพัฒนาระบบความพร้อมรับมือภัยพิบัติขององค์กร การทบทวนเหตุการณ์หลังจากแผ่นดินไหวจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้เราเข้าใจว่าอะไรทำได้ดี อะไรยังขาด และเราจะปรับปรุงอย่างไรให้พร้อมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
23 เม.ย. 2025
เมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสติและรู้ว่าจะต้องทำอะไรเพื่อปกป้องตัวเองและคนรอบข้างในทันที เพราะทุกวินาทีล้วนมีความหมาย การตอบสนองอย่างถูกวิธีในขณะเกิดเหตุสามารถลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้อย่างมาก
บทความนี้จะเน้นไปที่การ จัดการและปฏิบัติตัว “ในช่วงเวลาที่แผ่นดินไหวกำลังเกิดขึ้น” โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนอาจตกใจหรือสับสน เราจึงต้องมีแนวทางที่ชัดเจน
22 เม.ย. 2025